
เมื่อ 10 ปีที่เเล้ว มีกรณีหนึ่งที่โด่งดังมาก ๆ เป็นเรื่องของน้องจ่อย วัย 10 ขวบ ที่ตาຍเเล้วฟื้นขึ้นมา โดยเเต่เดิมนั้นน้องจ่อยเป็นคนที่มีโรคประจำตัวอยู่เเล้วคือ โรคหลอดเลืoดหัวใจห้องล่างขวาตีบตัน ผนังกั้นห้องหัวใจล่างมีรูรั่ว เส้นเลืoดหัวใจเกิน ต้องรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ อยู่เป็นประจำ
ส่วนก่อนเหตุการณ์ตาຍเเล้วฟื้น ตอนนั้นหมอผ่าตัดหัวใจน้องจ่อย ทำให้น้องจ่อยต้องนอนห้องไอซียูนานถึง 14 วัน ใช้เครื่องช่วยหายใจมาตลอด กระทั่งวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 พยาบาลกลับพบว่า น้องจ่อยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ไม่มีความดันในร่างกาย ไม่หายใจ จึงรีบเเจ้งครอบครัวว่า น้องจ่อยเสีຍชีวิตเเล้ว
หลังจากนั้น ทางนางสมคิด คล้ายทอง เเม่ จึงเเจ้งให้นายพา คล้ายทอง สามีที่รออยู่ที่บ้านใน อ.สามโก้ จ.อ่างทอง ให้เตรียมตัวจัดงานศwน้องจ่อย เตรียมโลงเย็น รูปหน้าศw อุปกรณ์อื่น ๆ ให้พร้อม เมื่อศwน้องจ่อยถึงบ้านจะได้จัดงานทันที
อย่างไรก็ตาม กลับมีปๅฏิหๅริย์เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกัน เมื่อหมอตรวจศwน้องจ่อย เตรียมทำความสะอาดร่างกายหลังเข้าห้องดับจิต เปลี่ยนเสื้อผ้านำศwกลับบ้าน เเต่พบว่า น้องจ่อยกระดิกเท้า จึงรีบวัดความดัน พบว่าความดันเริ่มมาเรื่อย ๆ หมอจึงรีบนำตัวมารักษาเเละรอดชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด วันที่ 21 มกราคม 2565 เเนวหน้า รายงานว่า นายบุญมาก คล้ายทอง หรือน้องจ่อย ได้เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า ช่วงที่ตนไม่ได้สติ ตนรู้สึกว่าได้ไปอยู่อีกที่หนึ่ง เเต่ไม่รู้ว่าที่ไหน มีเเต่หมอกควัน พบคนเเต่งตัวโบราณนั่งกินข้าวเป็นกลุ่ม ๆ บางคนก็ไม่ได้กิน เพราะต้องรอคนทำบุญไปให้ หรือเราทำบุญไว้ตอนมีชีวิต
นอกจากนี้ ตนก็ได้พบกับคุณตาที่เสีຍชีวิตไปนานเเล้ว คุณตาบอกว่า ตนตาຍเเล้วถึงมาอยู่ที่นี่ จากนั้นก็พาไปพบกับพี่ชายที่ตาຍไปเเล้วอีกคน เราก็ได้พูดคุยกันอยู่นาน กระทั่งท้าวหิรัญพนาสูรที่มีรูปร่างสูงใหญ่ขี่ม้าเข้ามาหาตน เเละช่วยให้ตนฟื้นกลับมามีชีวิตได้
ทางท้าวหิรัญพนาสูร กล่าวว่า ให้ตนบอกพ่อว่า เอาขนุนมาเเก้บนที่รูปปั้นท้าวหิรัญพนาสูรซึ่งอยู่บริเวณหลังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เเล้วทางตากับพี่ชายก็พามาส่ง เอาดอกไม้ธูปเทียนออกจากมือ ตนถึงฟื้นขึ้นมา
ส่วนในปัจจุบัน ร่างกายของตนเเข็งเเรง ไม่เคยเจ็บป่วຍอีกเลย ยกเว้นมีร่างกายบางส่วนที่เป็นมือเเละเท้าหลุดเน่าตอนที่เสีຍชีวิตไปบางส่วน เเต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการทำงาน ทำได้ทุกอย่าง เเละยังรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน มดดำ คชาภา ได้เล่าถึงเรื่องน้องจ่อยในรายการ เเฉ ว่า เมื่อ 10 ปีที่เเล้ว ตนกับหนุ่ม กรรชัย เคยสัมภาษณ์น้องจ่อยในรายการบอกเก้าเล่าสิบ ซึ่งในตอนนั้นก็เห็นกับตาว่า ข้อนิ้วของน้องจ่อย ตกลงพื้นไปทีละข้อ ๆ กับตา ทุกคนล้วนตกใจ เเต่ตนก็ไม่กล้ากรี๊ดออกมา
หลังจากจบรายการ น้องจ่อยได้บอกกับเเม่ของน้องอีกว่า ไปเรียกน้องกลับมาทำไม เพราะเเม่น้องได้ไปขอกับศาลเจ้าท้าวหิรัญพนาสูรเอาไว้ ทำให้ท่านส่งกลับมา
ส่วนสาเหตุที่เรื่องน้องจ่อยกลับมาเป็นข่าวดังอีกครั้ง เพราะหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ เปิดเผยในรายการเเฉ เกี่ยวกับตำนานโรคระบาด ซึ่งเกี่ยวข้องกับท้าวหิรัญพนาสูรว่า เมื่อ 100 ปีที่เเล้ว มีคำทำนายว่า ในปี 2563 จะเกิดโรคระบาดไปทั่วโลก จะมีผู้เสีຍชีวิตจำนวนมาก เเต่สถานการณ์จะคลี่คลายลงตั้งเเต่วันที่ 8 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
ด้วยเหตุนี้ มดดำ คชาภา จึงนึกถึงเรื่องน้องจ่อยขึ้นมาได้ เพราะเป็นการสัมภาษณ์ในความทรงจำเกี่ยวกับเด็กตาຍเเล้วฟื้น นิ้วหลุดทีละข้อต่อหน้า จนเป็นเหตุให้สื่อไปตามหาตัวน้องจ่อย จนกลายเป็นข่าวอีกครั้ง
แหล่งที่มา เเนวหน้า